Memory ในคอมพิวเตอร์ สำคัญยังไง

ก่อนอื่น เราจะมาพูดถึงการทำงานของคอมพิวเตอร์กันก่อน
โดยคอมพิวเตอร์เนี่ย จะมีส่วนที่สำคัญที่สุด ซึ่งเราเรียกมันว่า cpu โดยเจ้า cpu เนี่ย จะทำหน้าที่คำนวณทางคณิตศาสตร์เกือบทุกอย่าง พูดง่ายก็คือโปรแกรมทุกโปรแกรมจะถูกคำนวณผ่าน cpu หมด และ cpu เนี่ย ถ้าเทียบกับความเร็วในชีวิตประจำวันเรา ถือว่าเร็วมาก แม้จะเป็น cpu ระดับล่างๆนะเออ แต่ปัญหาคือมันไม่มี memory ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลนะ จึงเป็นที่มาของการมี memory เพราะเราจำเป็นต้องใช้ในการเก็บข้อมูล ไว้ให้ cpu คำนวณ หรือเก็บคำตอบที่ cpu คำนวณแล้ว นั่นเอง

แล้ว memmory ทำงานยังไงหล่ะ
memory ในคอมพิวเตอร์เราเนี่ย มันจะ ดึง หรือ copy ข้องมูลจากโปรแกรม หรือ operating system (windows อ่ะแหล่ะ) ที่ต้องใช้ในการคำนวณเนี่ย มาเก็บไว้ใน memory เพื่อใช้ในการคำนวณนั่นเอง โดยเจ้า ram ก็เลยถือเป็น main memory ที่จำเป็นมากของเครื่องคอมพิวเตอร์นั่นเอง

แต่ก็มีคนถามมาว่า แล้ว harddisk ที่เราใช้เก็บ มันทำงานไม่ได้เหรอ เก็บได้ตั้งเยอะแหน่ะ
ต้องพูดก่อนว่า เจ้า hard disk เนี่ย เป็นหน่วยความจำถาวร ก็คือ ไม่มีไฟ มันก็ยังเก็บข้อมูลได้ ไม่หายไปไหน แต่ ram ทำไม่ได้นะ ฟังดูเหมือนจะดี แต่ช้ามากบอกเลย ถ้าไปดูการทำงานของมันจริงๆเนี่ย เทียบกับ ram ไม่ได้ ดังนั้น ram เลยต้อง copy ข้อมูลจาก hard disk เนี่ยมาเก็บไว้ก่อน เพื่อที่จะให้ cpu คำนวณได้ทัน (ถึงตอนนี้ จะมี solid state drive ให้ใช้ ที่เค้าว่าเร็วแล้วเนี่ย ก็ยังช้ากว่า ram อยู่ดี)

แล้ว cache เนี่ย มันเหมือน ram ป่าว
ถ้าพูดถึงการทำงานเนี่ย ก็ถือว่าเหมือนนะ เพราะมันเอามาใช้ทดแทนข้อจำกัดของ ram เนื่องจากว่า ช่วงหลังๆมานี้เนี่ย cpu ที่ออกมาทำงานเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผลทำให้ ram ทำงานไม่ทัน จะให้ทันก็ต้องอัพเกรด ซึงพูดง่ายๆคือ ram ที่ทำงานได้เหมาะสมเนี่ย จะแพงมาก เค้าก็เลยสร้าง cache memory ขึ้นมา โดยข้อดีของมันคือ ทำงานเร็วมาก และมีขนาดเล็ก จะทำงานขั้นกลางระหว่าง ram กับ cpu การทำงานของมันคือ มันจะดึงข้อมูลที่ถูกเรียกใช้บ่อยๆ มาเก็บเอาไว้ใน cache แทน ram นั่นเอง จึงทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์เนี่ย เร็วขึ้นไปอีก

ขอบคุณรูปภาพจาก www.cbronline.com

สรุปการทำงานของ cpu กับ harddisk

ขอบคุณรูปภาพจาก tvtropes.org

สรุปง่ายๆก็คือ cpu จะทำการล้วงไปถึงข้อมูลไปที่ละขั้น โดยเริ่มจาก cache แล้วไปยัง memmory (ram),Starage Device(hdd,ssd) และสุดท้ายคือ Input-Sources(อุปกรณ์ภายนอก ที่เสียบเข้าไปเพิ่ม) โดยยิ่งลึก มันก็จะยื่งช้า นั่นเอง